เผยแล้ว! ภาพ ปริศนา เด็กสาวร่างจม ไม่ใช่ภาพตัดต่อ !! ชาวเน็ตแห่กันรวมไขข้อสงสัย ร่างของเธอ หาย ไปไหนกันนะ? เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 64 คุณแม่จากสหรัฐฯท่านหนึ่งได้ทำการลงรูป ภาพ ปริศนา เป็นรูปลูกสาวตัวน้อยของเธอ รูปภาพดังกล่าว เป็นรูปภาพของเด็กสาว ที่ดูแล้วเหมือนว่าร่างกายส่วนล่างของเธอ ได้ หาย จมลงไปในพื้นถนนครึ่งนึง
คุณแม่ท่านนั้น ยังได้เขียนแคปชั่นอีกว่า
“ลูกสาวฉัน, อีกครึ่งนึงหายไปไหน!? อ๋ออ เข้าใจแล้ว, คูณหล่ะ?” ในเวลาต่อมา กลายเป็นว่าภาพนี้กลายเป็นไวรัล มียอดกดไลค์กว่า 63,000ไลค์ พร้อมทั้ง 1,200 กว่าคอมเมนต์ ภาพนี้ถูกแชร์กันสนั่นในโลกโซเชียลเพื่อหาคำตอบว่า ร่างกายของเธอหายไปไหนกันนะ?
ผู้ชมส่วนใหญ่ยังหาคำตอบไม่ได้จริงๆ เพราะมองยังไงก็ดูราวกับว่า ร่างของเธอนั้นถูกกลืนไปกับพื้นจริงๆ
ชาวเน็ตท่านนึงกล่าวว่า นี่ไม่ใช่รูปตัดต่อ ให้มองภาพนี้ดีๆแล้วจะเข้าใจ
แท้จริงแล้ว ภาพนี้เป็นเพียงภาพลวงตา เด็กสาวไม่ได้ถูกดูดหรือจมไปกับพื้นแต่อย่างใด แต่ทว่าเป็นเพียงมุมกล้องเท่านั้นเอง
พื้นหญ้าที่เราเห็นด้านหน้านั้นอยู่สูงกว่าพื้นคอนกรีทที่เด็กสาวคนนี้ยืนอยู่ และบังเอิญว่าตรงขอบของพื้นหญ้านี้เป็นปูน ซึ่งมีสีเดียวกับพื้นคอนกรีทเพียงเท่านั้น!
EMA หรือ องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป เปิดเผยว่าวัคซีน ไฟเซอร์ สามารถแช่ตู้เย็นได้เดือนนึง เพิ่มขึ้นจากข้อจำกัดเดิมที่อนุญาตให้แช่ได้แค่ 5 วัน
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่าองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป หรือ EMA ได้ออกมาเปิดเผยวัคซีนไฟเซอร์ที่ยังไม่ถูกเปิดสามารถเก็บในตู้เย็นได้นานถึงหนึ่งเดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางองค์การแนะนำว่าวัคซีนชนิดดังกล่าวสามารถเก็บในตู้เย็นได้ห้าวันเท่านั้น
โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนข้อจำกัดนี้จะช่วยให้การกระจายวัคซีนในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านอุณหภูมิและการจัดเก็บเป็นอุปสรรคสำคัญในการขนส่งวัคซีนชนิดดังกล่าว
หากอ้างอิงตามตามคำแนะนำนั้นจากทางผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์ จะพบว่าทางบริษัทได้ระบุว่าได้ขอให้ต้องมีการจัดเก็บวัคซีนในระดับความเย็นจัดระดับ -60 ถึง -80 องศาเซลเซียส
‘ไบเดน’ ประกาศ แบ่งวัคซีน ให้ต่างชาติ เริ่มสิ้นเดือน มิ.ย.
โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯประกาศเตรียม แบ่งวัคซีน ให้ต่างชาติ พร้อมประกาศกร้าวจะเป็นชาติที่แบ่งวัคซีนให้ประเทศอื่นมากที่สุดในโลก
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่านาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่ารัฐบาลของตนจะส่งวัคซีนไฟเซอร์, โมเดอร์นา และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ช่วยเหลือต่างชาติ สมทบกับวัคซีนแอสตราเซเนกาจำนวน 60 ล้านโดส ที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้
โดยผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐฯเป็นคลังอาวุธแห่งประชาธิปไตย และเช่นเดียวกันกับสงครามกับเชื้อไวรัส ประเทศสหรัฐอเมริกาก็จะเป็นคลังอาวุธแห่งวัคซีน ซึ่งนายไบเดน ยังได้ประกาศกร้าวอีกด้วยว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้ส่งวัคซีนให้กับชาติอื่นมากที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการระบุแน่ชัดว่าประเทศใดจะได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 บ้าง แต่ก่อนหน้านี้เคยมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าอาจจะตัดสินจากกลุ่มประเทศพันธมิตรกับสหรัฐฯ ทั้งนี้ประเทศสหรัฐฯเคยส่งวัคซีนให้กับประเทศเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านมาแล้ว
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯเผชิญแรงกดดันอย่างหนักให้ช่วยเหลือประเทศอินเดียหรือบราซิลที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นวิกฤติ
ขณะนี้ประเทศสหรัฐอเมริกามียอดผู้ป่วยสะสมราวๆ 33 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6 แสนศพ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาประเทศสหรัฐฯมียอดผู้ป่วยใหม่ที่ลดลงมาอย่างมาก จากการที่ประชาชนสหรัฐฯได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 โดยอ้างอิงจากข้อมูลสหรัฐฯระบุว่า ขณะนี้มีทางการได้ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 200 ล้านโดส กลายเป็นข่าวฉาวอีกครั้งเมื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียพบ ยาไอซ์ มูลค่าเกือบร้อยล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซ่อนมากับ เรือสินค้าไทย
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม สำนักข่าว 9News รายงานว่า ยาไอซ์ น้ำหนัก 316 กิโลกรัม หรือ มูลค่าเกือบร้อยล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย คิดเป็นราวๆ สองพันล้านบาท ซ่อนมากับเตาบาร์บีคิว และ กาน้ำ บนเรือสินค้าของประเทศไทย ที่เข้ามาจอดเทียบท่าเรือของนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 4 พ.ค.
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดสินใจค้นเรือลำดังกล่าว หลังจากที่ กองกำลังชายแดนออสเตรเลีย หรือ ABF พบความไม่สม่ำเสมอของรายชื่อสินค้าบนเรือ ซึ่งตามข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับระบุว่าสินค้าที่เกี่ยวกับอาหารและเตาไฟฟ้า ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพบว่ายาเสพติดจากไทยบนเรือลำดังกล่าวในเวลาต่อมา
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง